IoT คืออะไร? IoT หรือ Internet of Thing หมายถึง วัตถุ อุปกรณ์ พาหนะ สิ่งของเครื่องใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตอื่นๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมีการฝังตัวของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อกับเครือข่าย ซึ่งวัตถุสิ่งของเหล่านี้ สามารถเก็บบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ อีกทั้ง สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและถูกควบคุมได้จากระยะไกล ผ่านโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ IoT สามารถประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ทุกอย่างที่ถูกออกแบบมาให้เชื่อมโยงกันได้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อที่จะสามารถสื่อสารกันได้
โดยปัจจุบันนั้นเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับธุรกิจและโรงงาน อย่างเช่น Smart Factory ที่ได้นำ IoT มาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับเครื่องจักรและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกัน รูปแบบการประยุกต์ใช้งานขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมของผู้พัฒนา เพื่อให้มีความสะดวกสบายต่อผู้ใช้งานมากที่สุด ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึง ประโยชน์ 5 ข้อ ของการใช้งาน IoT ว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างไรบ้างค่ะ
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การนำ IoT มาใช้งานนั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และทำให้สะดวกรวดเร็วในการทำงาน เนื่องจากการส่งผ่านข้อมูลของ IoT นั้นสูงกว่าการใช้มนุษย์ทำงาน การทำงานของมนุษย์อาจจะทำให้เกิด Human Error และเกิดข้อจำกัดด้านพลังงานเวลา และสถานที่ได้ แต่การทำงานของ IoT นั้นมีความสามารถในการเก็บข้อมูล ประมวลผล ส่งผ่าน และแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและสามารถรองรับข้อมูลได้เป็นจำนวนมหาศาล อีกทั้งมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย
2. ไร้ข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่
IoT สามารถทำงานได้แบบไร้ขีดจำกัด เพราะขับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ต อย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่าอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมสิ่งที่อยู่ห่างไกล ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สามารถติดตามผลการดำเนินงานและเช็คสถานะการผลิตได้ แม้ว่าโรงงานจะอยู่คนละจังหวัดหรือประเทศก็ตาม และการทำงานของ IoT นั้น ยังสามารถทำงานได้ตลอดเวลา ซึ่งต่างจากมนุษย์ที่มีพลังงานจำกัดในการทำงาน เพราะต้องการการพักผ่อน ดังนั้นการทำงานของ IoT ทำให้ตัดปัญหาข้อจำกัดของเวลาและสถานที่ได้ค่ะ
3. ลดต้นทุนในหลายๆ ด้าน
เนื่องจาก IoT มีความแม่นยำและไรข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ ทำให้ช่วยลดต้นทุนได้หลายๆ ด้าน เช่นต้นทุนการจ้างงาน ต้นทุนค่าเสียโอกาส หรือต้นทุนการผลิต ปัจจุบันมีการนำ IoT มาใช้กับเครื่องจักรทำให้ลดต้นทุนการจ้างงาน และตัวอย่าง ต้นทุนการผลิตที่ลดลง เช่น หากว่าเราทราบข้อมูลความต้องการสินค้าอย่างละเอียดและเฉพาะเจาะจง เราะจะสามารถผลิตได้ตามความต้องการของลูกค้าในทันท่วงที ตามจำนวนการสั่ง หรือที่เรียกว่า Just In Time (JIT) การผลิตแบบนี้จะช่วยลดต้นทุนจมในการผลิตที่เกินมาได้อย่างมีนัยสำคัญ
4. มีเวลาในการสรรค์สร้างนวัตกรรม
สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทำได้ดีกว่าเทคโนโลยีคือ “ความคิดสร้างสรรค์” การริเริ่มผลงานต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ซึ่งการให้เทคโนโลยีทำงานด้าน Routine แทนเรา จะทำให้เรามีเวลาในการทำงานสร้างสรรค์ งานนวัตกรรม และออกแบบมากมาย การให้เทคโนโลยีทำงานแทนและโยกแรงงานที่ทำงาน Routine มาฝึกฝนเพื่อทำงานที่ซับซ้อนและใช้ไอเดียมากขึ้นจะทำให้กิจการเกิดความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เพราะมีการพัฒนาทั้งคน และเทคโนดลยีไปพร้อมๆกัน
5. ยกระดับกิจการให้ Smart ในสายตานักลงทุน
IoT เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเกิดเป็น หรือ Smart Business และช่วยเสริมให้เกิดข้อดีหลาย ๆ อย่าง เช่นสร้างกำไร, ลดต้นทุน, เพิ่มรายได้และขยายกิจการ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น ทำให้เป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนหรือ Partner ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจของเรา เป็นโอกาสให้เราต่อยอดทางธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นค่ะ
และนี่ก็คือประโยชน์ 5 ข้อของ IoT ซึ่งถ้าหากจับจุด และนำมาใช้กับธุรกิจของเรา เราจะเห็นกำไรได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากนำมาใช้โดยขาดความเข้าใจ อาจจะยิ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนได้ค่ะ นี่ก็เป็นเพียงบทความที่เราหยิบยกมา เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสในการมองหาเส้นทางทำธุรกิจต่อไปค่ะ ซึ่งทางบริษัทพีเอสไอฯ จะมีการนำสินค้าทางด้าน IoT มาจัดจำหน่ายให้แก่ทุกท่านได้ใช้งาน ไม่นานเกินรอแน่นอนค่ะ
หากท่านสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :
CALL CENTER : 1247
Web site : PSI.CO.TH
LINE : @PSI1247
FB : https://www.facebook.com/psisats