ค่าไฟแพงผิดปกติเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนพบเจอกันในช่วงนี้ทั้ง ๆ ที่การใช้ไฟไม่ต่างจากเดิมมากนักแต่ค่าไฟกลับพุ่งขึ้นสวนทางอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงหาวิธีการลดค่าไฟ แต่แท้ที่จริงแล้วสาเหตุของค่าไฟแพงช่วงนี้นั้นมีปัจจัยหลักมาจากค่า FT ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

ค่า FT คืออะไร ?

ค่า FT ในแต่เดิมย่อมาจาก “Float time” ใช้อธิบายค่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ราคาเชื้อเพลิง อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินต่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น แต่หลังจากช่วงเดือนตุลาคมปี 2548 ได้มีการเปลี่ยนวิธีการคำนวนค่า FT ใหม่ขึ้นให้เหลือเพียงแค่ค่าต้นทุนเชื้อเพลิง และค่าซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ หรือซื้อจากในประเทศ (เอกชน) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ค่า FT ในปัจจุบันย่อมาจากคำว่า “Fuel Adjustment Charge” (at the given time) แทนนั่นเอง โดยการปรับค่า FT นั้นจะขึ้นอยู่กับผู้พิจารณาคือคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตไฟฟ้าที่ไม่ต้องแบกรับต้นทุนสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งค่า FT จะมีการปรับทุก ๆ 4 เดือน

“ค่าไฟแพงผิดปกติ” ที่เป็นกระแสที่พูดถึงอยู่ในโซเชียลกับค่า FT มันเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร ในไตรมาสที่แล้ว (เดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม) ค่า FT อยู่ที่ 24.77 สตางค์/ค่าไฟ 1 หน่วย แต่ในไตรมาสนี้ (เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม) ค่า FT มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็น 93.43 สตางค์/ค่าไฟ 1 หน่วย หรือคิดเป็น 377 เปอร์เซ็นต์ และนี่คือ 1 ในปัจจัยที่ค่าไฟแพงผิดปกติในทุกวันนี้

ปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้ค่าไฟแพงผิดปกติ

ค่าไฟแพงผิดปกติส่วนหนึ่งมาจากค่า FT ที่พุ่งสูงขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นจนผู้คนต้องคิดหาวิธีการลดค่าไฟมาปรับใช้เพื่อลดภาระรายจ่ายที่มีในแต่ละเดือน อีก 1 ปัจจัยสำคัญคือยุคสมัยที่เปลี่ยนไปหลังจากการเกิดวิกฤติโควิด19 การ Work from home ก็มีการปรับใช้ในหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน มีการปรับการทำงานเป็นแบบ Hybrid มากขึ้น การเข้าออฟฟิศที่น้อยลง การทำงานที่บ้านที่มากขึ้น การใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต หรือการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นทั้งสิ้น

ในส่วนของหน่วยงานและบริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่มีการทำงานตามปกติก็ได้รับผลกระทบจากค่าไฟแพงผิดปกติด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากค่า FT แล้ว ก็คือปัจจัยในเรื่องของอากาศที่ร้อนจัด ทำให้มีการใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยขึ้น หรือมีการปรับลดอุณหภูมิภายในสำนักงานทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น ก็ส่งผลให้กินไฟมาก และส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้นตามมาอีกด้วย

วิธีลดค่าไฟทำอย่างไรได้บ้าง ?

สาเหตุของค่าไฟแพงผิดปกตินั้นมีหลายประการ ในประเด็นของค่า FT เป็นส่วนที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เราจึงต้องมองหาปัจจัยอื่นที่เราสามารถควบคุมรายจ่ายเพื่อลดค่าไฟในแต่ละเดือนได้ เช่น คนที่ต้อง Work from home หรือออฟฟิศที่กลับมาเปิดแบบเต็มรูปแบบ ต้องชาร์จไฟเท่าที่จำเป็น เปิดแอร์ที่อุณหภูมิที่ 25 องศา ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ เท่านี้ก็จะสามารถลดค่าไฟในเบื้องต้นได้ แต่หากทำทั้งหมดแล้วค่าไฟยังแพงผิดปกติอยู่ อีกวิธีที่เราจะแนะนำคือการติดโซล่าเซลล์เปรียบเสมือนการลงทุนในระยะยาวช่วยลดค่าไฟไปได้อีกหลายสิบปี แล้วการติดโซล่าเซลล์มีขั้นตอนอย่างไร แล้วจะช่วยให้คุณประหยัดไฟได้อย่างไรเราไปดูคำอธิบายกัน

ติดโซล่าเซลล์ลดค่าไฟได้จริง

ติดโซล่าเซลล์คือการนำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีแผงโซล่าเซลล์เป็นตัวกลาง พลังงานที่ได้จึงเป็นพลังงานที่สะอาด ลดโลกร้อน และลดค่าไฟได้จริง ช่วยแก้ปัญหาเรื่องค่าไฟแพงผิดปกติได้อย่างแน่นอน

การติดโซล่าเซลล์นั้นก็มีหลายประเภท โดยคุณต้องดูจากการใช้ไฟในแต่ละเดือนของคุณว่าเหมาะกับการติดโซล่าเซลล์ตัวไหนมีทั้งตัวเริ่มต้นเหมาะกับครอบครัวเล็ก ๆ ไปจนถึงชุดโซล่าเซลล์ขนาดใหญ่ที่เหมาะกับบริษัทที่ต้องการจะลดค่าไฟให้ได้เดือนละหลักพันบาท

ถ้าต้องการติดโซล่าเซลล์ในชุดเริ่มต้นจะเป็นโซล่าเซลล์ชุด Easy Plug เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่ใช้ไฟเดือนละประมาณ 600 ขึ้นไป การติดโซล่าเซลล์ชุดนี้จะช่วยลดค่าไฟได้ถึง 2,500.-/ปี หากซื้อตอนนี้แถมฟรีปลั๊กไฟอัจฉริยะ PSI Smart Plug ช่วยให้คุณสั่งเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าจากที่ไหนก็ได้ และตั้งเวลาเปิดปิดได้ เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดปัญหาค่าไฟแพงเกินจริงได้ครับ

สนใจอยากติดตั้งโซล่าเซลล์ สามารถติดต่อ PSI เพื่อขอคำปรึกษา-สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PSI Call Center 1247 หรือเว็บไซต์ PSI.CO.TH รวมทั้งที่ช่องทางออนไลน์ของ PSI ทุกช่องทาง LINE: @PSI1247 FB : https://www.facebook.com/psisats

โซล่าเซลล์ PSI ใช้แล้วไม่ผิดหวัง ช่วยคุณประหยัดไฟได้ล้านเปอร์เซ็นต์!

บทความที่เกี่ยวข้อง