สภาพอากาศทุกวันนี้ที่ร้อนจนทนไม่ไหว ทำให้เรากระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน้ำส่วนใหญ่ที่เราชอบดื่มนั้น มักจะเป็นน้ำเย็นๆ ยิ่งเย็นจัดๆ ยิ่งดี เพราะจะช่วยให้เราดับกระหายได้ดี และรู้สึกสดชื่น
แต่…การที่เราดื่มน้ำเย็นจัดๆ นั้น ทำให้เราสดชื่นหรือดับกระหายได้ก็จริง แต่มันก็เป็นเพียงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทุกท่านรู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มน้ำเย็นจัดๆ มากเกินไปนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เหมือนกัน อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าอย่างไร เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. ลดขีดความสามารถของสมอง
นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยบริสตอล ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มน้ำเย็นจัดในยามที่ร่างกายไม่ได้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำนั้น จะทำให้ขีดความสามารถในการทำงานของสมองลดลงไปทันที โดยทำการวิจัยจากการแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเลย ขณะที่อีกกลุ่มให้ดื่มน้ำเย็นจัด ที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส 1 แก้ว ทั้งที่ยังไม่รู้สึกกระหาย หลังจากนั้นจึงนำแบบทดสอบไปให้ทำ ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ไม่ได้ดื่มน้ำนั้นทำแบบทดสอบได้ดีกว่ากลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นจัด โดยกลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นจัดนั้น มีขีดความสามารถในการทำแบบทดลองลดลงไปถึง 15% เลยทีเดียว
จากผลการวิจัย นักวิจัยจึงเชื่อว่า อุณหภูมิของน้ำที่เย็นมากเกินไป จะส่งผลกระทบต่อสมอง ดังนั้น จึงกระทบต่อคนที่กําลังทํางานที่ต้องใช้สมอง หรือใช้ความคิดมากๆ รวมทั้งการขับรถด้วย ดังนั้นเราควรที่จะดื่มน้ำในอุณหภูมิที่ปกติดีที่สุด เพราะสมองเราจะทำงานได้ดีกว่าค่ะ
2. ระบบย่อยอาหารทำงานยากขึ้น
หลายคนมีพฤติกรรมที่เมื่อกินข้าวเสร็จจะต้องกินน้ำตามทันที และโดยส่วนมากมักจะเป็นน้ำเย็น เพราะรู้สึกว่าเป็นการล้างปากหลังจากการกินข้าวเสร็จ แต่…รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้น ส่งผลทำให้กระเพาะอาหารของเราย่อยอาหารได้ยากขึ้น
โดยปกติกระเพาะอาหารของเราจะทำงานโดยการหลั่งเอนไซม์ออกมาเวลาย่อยอาหาร ซึ่งเอนไซม์นั้นมีอุณหภูมิเท่ากับร่างกายของเรา คือประมาณ 37 องศาเซลเซียส หากเราดื่มน้ำเย็นจัด ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่ากันมากลงไป จะส่งผลให้ไปลดการทำงานของสสารเอนไซม์สำหรับย่อยอาหาร นอกจากนี้ น้ำเย็นยังจะไปทำให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหารเกิดอาการชาได้ ทำให้ประสิทธิภาพการย่อยอาหารลดลงอีกด้วย เมื่อการย่อยอาหารทำได้ไม่ดี จึงส่งผลให้เรามีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขึ้นมา และถ้าหากเราติดนิสัยดื่มน้ำเย็นจัดๆ หลังอาหารเป็นประจำ ก็อาจทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วยค่ะ
3. ทำให้เป็นร้อนใน ในปาก
ร้อนใน เป็นแผลเปื่อยในช่องปาก อาจจะเป็นที่กระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือส่วนใดส่วนหนึ่งภายในปาก ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดร้อนในก็คืออุณหภูมิในร่างการผิดปกติ หรือร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน ดังนั้นหากเราเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำเย็นจัดๆ ร่างกายของเราก็ต้องปรับอุณหภูมิบ่อยๆ ยิ่งเราดื่มน้ำเย็นมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ต้องปรับอุณหภูมิมากยิ่งขึ้นเท่านั้น การทำเช่นนี้จึงส่งผลให้ร่างกายของเรามีการทำงานที่ผิดปกติ และนั่นแหละค่ะ อาการร้อนในก็จะถามหานั่นเอง
4. เจ็บป่วยง่ายขึ้น
เมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศที่ร้อน หากเราดื่มน้ำเย็นในช่วงอากาศร้อนจัด จะทําให้เราเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น เพราะร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน แตกต่างจากคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหนาวหรือต่างประเทศ ที่การดื่มน้ำเย็นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเขาเท่าไหร่นัก เพราะเป็นน้ำประเทศเขามีอุณหภูมิที่ไม่ต่างกับอากาศข้างนอกนั่นเอง ใครที่พบว่าตัวเองป่วยบ่อยๆ ลองตรวจสอบตัวเองดูนะคะว่าชอบดื่มน้ำเย็นบ่อยๆ หรือป่าว
5. ปวดท้องประจำเดือนมากขึ้น
ในข้อนี้คุณผู้หญิงอาจจะได้ยินบ่อยๆ ว่าการดื่มน้ำเย็นมากๆ จะทำให้เราปวดประจำเดือน ซึ่งเป็นความจริง เพราะการที่เราดื่มน้ำเย็นมากๆ จะทำให้มดลูกของเรารัดตัวมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้เรายิ่งปวดท้องมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งการที่ดื่มน้ำเย็นจัดนั้นยังทำให้ประจำเดือนของเราเป็นลิ่ม และนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงบางคนมีรอบเดือนที่ไม่ปกติอีกด้วยค่ะ
เห็นไหมคะว่าการที่เราดื่มน้ำเย็นจัดมากๆ ก็ใช่ว่าจะมีผลดีต่อร่างกายของเรา ผลเสียของมันกลับเยอะกว่าซะอีก จนเราคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นเมื่อเรารู้ถึงโทษของมันแล้วก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัดๆ นะคะ และหันมาดื่มน้ำในอุณหมูมิปกติดีกว่าค่ะ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงค่ะ