“น้ำ” คือชีวิต คำนี้ทุกท่านคงจะได้ยินกันมาบ้างแล้วจากหลายๆ แหล่งข้อมูล เพราะน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับชีวิตทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ ตลอดจนถึงต้นไม้ ถ้าขาดน้ำทุกอย่างก็คงจะแย่ ในการดื่มน้ำในปัจจุบันนั้น ยังมีคนส่วนน้อยที่ยังมีการดื่มน้ำประปาทั่วไป ซึ่งน้ำประปาโดยส่วนใหญ่นั้นที่นำมาดื่มกิน มักจะไม่สะอาด และมีสิ่งสกปรก และสารเจือปนที่มากับน้ำ ทำให้ทุกคนกลับมาเลือกซื้อน้ำดื่มที่เป็นขวด หรือไม่ก็ซื้อเครื่องแยกน้ำมาติดตั้ง เพื่อที่จะได้ดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่าระหว่างการที่จะซื้อน้ำดื่มที่เป็นขวด กับ การเลือกซื้อเครื่องแยกน้ำมาติดตั้ง อันไหนจะประหยัดกว่ากัน ซี่งวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ โดยจากการวิเคราะห์คร่าวๆ ให้เห็นภาพกันนะคะ
เราลองมาคำนวณกันดีกว่าค่ะ หากเราเลือกที่จะซื้อน้ำดื่มทุกวัน ในเวลา 1 ปี เราจะเสียค่าน้ำดื่มไปเท่าไหร่ ถ้าซื้อน้ำดื่มขนาด 1.5 มล. ราคาประมาณ 117 บาท (ยี่ห้อดีเป็นน้ำแร่) จำนวน 1 แพ็ค ต่อปีจะใช้เงินประมาณ 5,616 บาท แต่หากซื้อเครื่องแยกน้ำหนึ่งเครื่อง เราสามารถใช้งานได้มากสุด 2 ปีหรือนานกว่านั้น หากเราซื้อน้ำดื่ม 2 ปี จะเป็นเงิน 11,232 บาท แล้วยังไม่รวมค่าเสียเวลา ค่าน้ำมัน และค่าแรงที่ออกไปซื้ออีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี เห็นไหมคะว่า หากเรานำเงินจากการซื้อน้ำดื่มไปซื้อเครื่องแยกน้ำมาติดตั้ง ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ เพราะเครื่องแยกน้ำหนึ่งเครื่องก็ราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท ถือว่าคุ้มค่ากว่ากันตั้งเยอะค่ะ
การซื้อเครื่องแยกน้ำ สำหรับเครื่องกรอกน้ำระบบ RO ที่มีประสิทธิภาพสูง ในการกรองน้ำหรือแยกน้ำ และทำให้น้ำสะอาดมากขึ้น เมื่อคิดรวมค่าน้ำทั้งหมด รวมทั้งน้ำทิ้งแล้ว เราจะใช้น้ำรวมทั้งหมด 200 ลิตร/เดือน หรือ 2,400 ลิตร/ปี อยู่ที่ 30 บาทเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่าเช่นค่าไฟอยู่ปีละไม่เกิน 240 บาท ค่าให้เมมเบรน 2 ปีครั้ง ราคา 480 บาท
จากการคำนวณเฉลี่ยดูคร่าวๆ แล้ว ต้องถือว่าการซื้อเครื่องแยกน้ำถูกกว่าการซื้อน้ำดื่มอย่างแน่นอนค่ะ แถมประหยัดเวลา ประหยัดแรง ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บและยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วยค่ะ