เรากำลังอยู่ในยุคที่ข้าวของแพงแต่ค่าแรงถูก รายได้ที่ได้รับมาไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน รวมไปถึงค่าไฟที่พุ่งสูงจนประชาชนอย่างพวกเราอาจต้องเตรียมเซฟเงินไว้เพื่อจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้นในแต่ละรอบบิล มาดูเหตุผลว่าค่าไฟแพงเกิดจากอะไร รวมไปถึงจะมีวิธีรับมือและประหยัดค่าไฟอย่างไรเพื่อลดค่าไฟให้ถูกลง
อะไรทำให้ค่าไฟแพง
ประโยค “ค่าไฟแพงขึ้นเพราะค่าเชื้อเพลิงสูงขึ้น” อธิบายได้ว่าการที่ค่าไฟจะถูกหรือจะแพง ขึ้นอยู่กับต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันก๊าซธรรมชาติถือเป็นเชื้อเพลิงหลักสำหรับการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นจึงเป็นต้นทุนที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ต้นทุนนี้จะอยู่ในค่า Ft หรือ ย่อมาจาก “Float time” ซึ่งหมายถึง ค่าไฟฟ้าผันแปร และเมื่อตอนนี้บ้านเราประสบปัญหาจากการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ หมายความว่าต้องใช้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทำให้ค่าไฟแพงขึ้นนั่นเอง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ไขข้อสงสัยทำไมค่าไฟแพงผิดปกติ
สาเหตุของการปรับขึ้นค่า Ft
นอกจากราคาต้นทุนเชื้อเพลิงแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้มีการปรับค่า Ft ให้สูงขึ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ชี้แจงสาเหตุหลักของการขึ้นค่า Ft ในช่วงปี 2565-2566 ว่ามี 4 เหตุผลหลักดังนี้
ปริมาณก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยที่ลดลงจากเดิม
ก๊าซธรรมชาติส่วนหนึ่งในอ่าวไทยจากแหล่งผลิตหลักขาดหายไป เพราะเป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผู้รับสัมปทานรายเก่ากับผู้ที่จะเข้ามาพัฒนารายใหม่ จึงส่งผลให้ผลิตก๊าซได้ไม่ต่อเนื่อง
การผลิตก๊าซจากเมียนมาร์ไม่สามารถผลิตได้ตามกำลังเดิม
ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตก๊าซใช้เองได้เพียง 66% ในส่วนที่เหลืออีก 34% เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในการนำเข้ามาจากเมียนมาร์ถึง 16% พอเกิดปัญหาขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ ทำให้ต้องเปลี่ยนมาใช้ “ก๊าซธรรมชาติเหลว” หรือ LNG เพื่อทดแทนก๊าซที่ไม่สามารถผลิตได้จึงทำให้ต้นทุนสูงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้น
ผู้ผลิต “ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG” ชะลอการลงทุน
เป็นอีกสาเหตุที่สะสมมาจากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดการแพร่ระบาดหนัก ทำให้ช่วงนั้นผู้ผลิต LNG มีการชะลอการลงทุนเพราะมีความต้องการใช้น้อยลง และเมื่อหลาย ๆ ประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวจากโควิด-19 ทำให้เกิดความต้องการในการใช้ LNG มากขึ้นในตลาดโลก ส่งผลให้มีผลกระทบต่อการซื้อขาย
เกิดสภาวะจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ที่ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวแพง ส่วนหนึ่งเกิดจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เพราะรัสเซียลดกำลังการผลิตและตัดการจ่ายก๊าซธรรมชาติ ทำให้เป็นที่ต้องการก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้นในยุโรป ส่งผลทางอ้อมในการขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในประเทศเอเชีย และค่าเชื้อเพลิงก็ขึ้นตามอีกด้วย
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น
นอกจากสาเหตุที่มีการปรับค่า Ft สูงขึ้นแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยนอกเหนือจากนี้ที่ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันหลังจากวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา การ work from home ทำงานที่บ้านมากขึ้น เข้าออฟฟิศน้อยลง จึงทำให้ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง เป็นอีกสาเหตุที่ค่าไฟจะพุ่งสูงขึ้นในแต่ละเดือน
ประกอบกับประเทศไทยเป็นประเทศที่อากาศร้อน สภาพอากาศจึงเป็นอีกสาเหตุที่ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น เพราะยิ่งอากาศร้อน ยิ่งต้องใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยขึ้น และถ้าปรับลดอุณหภูมิให้ต่ำลงมาก จะยิ่งทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานมากขึ้น ส่งผลต่อค่าไฟที่แพงตามมา
ต้องทำอย่างไรเพื่อให้ค่าไฟลดลง
แน่นอนว่าเราไม่สามารถควบคุมการปรับขึ้นของค่า Ft ได้ แต่เราสามารถปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันได้ มาลองดูวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้จ่ายค่าไฟได้ลดลง
ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
จำไว้เสมอว่าปิดการใช้งานไม่เท่ากับการถอดปลั๊ก ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน ก็จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่กินไฟ แต่ถ้าแค่ปิดไว้ กินไฟเท่าเดิม
เปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่ 26-27 องศา
เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานน้อยลง ส่งผลให้กินไฟน้อยลง แต่หากปรับลดอุณหภูมิให้ต่ำ เย็นจัด จะทำให้เครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก และกินไฟมาก ส่งผลให้ค่าไฟยิ่งแพง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 5 สิ่งที่เราทำได้ ไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
ใช้หลอดไฟ LED ดีกว่าใช้หลอดไฟแบบไส้
ลงทุนใช้หลอดไฟ LED ที่ราคาสูงกว่าหลอดไฟชนิดอื่นแต่คุ้มค่าในระยาว เพราะให้แสงสว่างมากแต่กลับประหยัดไฟและใช้ได้นาน
เลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5
ประหยัดไฟเบอร์ 5 คือโครงการประหยัดไฟของ กฟผ. ที่จะให้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบ ในการเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากไฟเบอร์ 5 จึงทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นได้ว่ามีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟแน่นอน
ลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์
โซล่าเซลล์เป็นพลังงานสะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เป็นระบบที่นำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีแผงโซล่าเซลล์เป็นตัวกลางจึงช่วยแก้ปัญหาลดค่าไฟได้อย่างแน่นอน ซึ่งในการลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้ถึงหลักพันไปจนถึงหลักหมื่นต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใช้งาน การติดโซล่าเซลล์นั้นก็มีหลายประเภท แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ ระบบโซล่าเซลล์แบบ On grid เพราะตอบโจทย์กับกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่ตั้งแต่ครัวเรือนไปถึงอุตสาหกรรมขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี คืนทุนไว ประหยัดไฟได้จริงตั้งแต่เดือนแรกที่ติดตั้ง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดและการใช้งานของแต่ละพื้นที่ เพราะหากคุณเป็นคนใช้ไฟฟ้ามากในช่วงเวลากลางคืน อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือต้องการใช้ไฟฟ้าตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน การเลือกใช้ระบบโซล่าเซลล์แบบ Off grid และ Hybrid จะตอบโจทย์และให้ความคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด
ซึ่งหากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการประหยัดไฟฟ้า และช่วยลดค่าไฟได้ในแต่ละรอบเดือน แนะนำติดโซล่าเซลล์ของ PSI เพราะเป็นโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ผ่านมาตราฐานการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ที่ PSI สามารถขอคำแนะนำและขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ รวมถึงขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งได้ที่ PSI.CO.TH รวมทั้งที่ช่องทางออนไลน์ของ PSI ทุกช่องทาง
LINE : @PSI1247
PSI CALL CENTER : 1247
FB : https://www.facebook.com/psisats
บทความที่เกี่ยวข้อง