ด้วยสถานการณ์โลกที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามหรือวิกฤตพลังงาน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้ามีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง MEA จึงจำเป็นต้องปรับค่า Ft ในช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. ปี 2566 เป็น 93.43 สตางค์/หน่วย นับว่าพุ่งขึ้นสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับค่า Ft ในช่วงเดือน ม.ค.- เม.ย. ปี 2565 ที่มีราคาเพียง 1.39 สตางค์/หน่วย ผนวกกับวิกฤตการณ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นสูงขึ้นทุกปี ประชาชนอย่างพวกเราจะเผชิญกับวิกฤตค่าไฟแพงและหน้าร้อนที่กำลังมาถึงได้อย่างไร มาหาคำตอบและอัปเดตข้อมูลพร้อมเคล็ดลับประหยัดไฟไปพร้อมกัน

สถานการณ์ “ค่าไฟแพง” เกิดจากอะไร?

เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้โลกของเรากำลังเผชิญกับปัญหาสถานการณ์ค่าไฟแพงขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เป็นเพราะปัจจัยหลักที่กระทบต่อค่า Ft คือ “ต้นทุนราคาเชื้อเพลิง” นั่นเอง ปัจจุบันทั้งในอ่าวไทยและสหภาพพม่ากำลังเผชิญหน้ากับสภาวะการลดลงของก๊าซธรรมชาติเหลว เนื่องจากก๊าซดังกล่าวกำลังจะหมดลงในไม่ช้า ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องหาซื้อก๊าซเหลวธรรมชาติจากประเทศอื่นเพื่อมาทดแทน ส่งผลให้ต้นทุนราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้น และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ค่าไฟแพงก็คือการเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย เนื่องจากประเทศรัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก ภาวะสงครามทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงหน้าร้อนของทุกปี อุณหภูมินอกบ้านพุ่งสูงขึ้นถึง 40 องศา จึงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทำงานอย่างหนัก และใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราต้องจ่ายค่าไฟในราคาที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ค่าไฟแพงเกิดจากอะไร? How to ลดค่าไฟ

ต้องเผชิญ “ค่าไฟแพง” อีกนานแค่ไหน?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เราจ่ายค่าไฟในราคาที่แพงขึ้นจากในอดีตเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อวันที่ 24 มกราคม ปี 2566 ภาครัฐจึงได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาค่าไฟที่แพงขึ้น ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน โดยให้ส่วนลดค่า Ft สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือน มกราคม – เมษายน 2566 ดังนี้

ผู้ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 1-150 หน่วย/เดือน ให้ส่วนลดค่า Ft จำนวน 92.04 สตางค์/หน่วย เหลือ 1.39 สตางค์/หน่วย
ผู้ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 151- 300 หน่วย/เดือน ให้ส่วนลดค่า Ft จำนวน 67.04 สตางค์/หน่วย เหลือ 26.39 สตางค์/หน่วย

จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นว่ามีการปรับค่า Ft ลดลงเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้ไฟบ้านน้อย แต่เมื่อเทียบกับส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นในปีก่อน ๆ ถือว่ายังส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนที่ยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นและมีแนวโน้มที่ค่าไฟจะแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นในการหาวิธีประหยัดและลดการใช้ไฟฟ้า สิ่งนี้ไม่เพียงที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการมีส่วนร่วมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับโลกของเราอีกด้วย

เคล็ดลับประหยัดไฟ ทำอย่างไรได้บ้าง

ใช้หลอดไฟ LED

เนื่องจากไฟ LED ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟแบบไส้ถึง 90% และยังให้แสงสว่างดีกว่า รวมถึงมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า แม้หลอดไฟแบบ LED จะราคาสูงกว่าหลอดไฟประเภทอื่น แต่ให้ความคุ้มค่า คงทน และช่วยให้ประหยัดเงินได้ในระยะยาวแน่นอน

ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งานอุปกรณ์

ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จสำหรับโทรศัพท์ แล็ปท็อป หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในบ้าน หากไม่ถอดปลั๊กออก อุปกรณ์เหล่านี้จะยังคงกินไฟอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่ได้ใช้งาน ดังนั้นจึงควรถอดปลั๊กทุกครั้งหรือปิดสวิตช์บนปลั๊กพ่วงเมื่อใช้งานเสร็จ จึงจะช่วยให้ประหยัดไฟได้อย่างแท้จริง

ลดอุณหภูมิแอร์

เปิดแอร์ที่ 26 องศา และเปิดพัดลมช่วย วิธีนี้จะทำให้รู้สึกเย็นไว ประหยัดไฟกว่า เพราะพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลม ให้อากาศเคลื่อนที่ไวขึ้น ทำให้เกิดการระบายความร้อนจากร่างกายจึงรู้สึกเย็นสบายแม้ไม่ได้เปิดแอร์ในอุณหภูมิต่ำ

เปลี่ยนไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน

เมื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มองหาฉลากเบอร์ 5 เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ได้รับการรับรองว่าช่วยประหยัดไฟได้ดีกว่าเบอร์อื่น ๆ ผ่านการทดสอบมาแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดี และยังใช้พลังงานน้อยลง โดยจะเห็นความแตกต่างของการใช้ไฟได้อย่างชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป

ใช้แสงธรรมชาติ

ในระหว่างวัน พยายามใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด เปิดม่านหรือมู่ลี่เพื่อรับแสงแดด เป็นการช่วยประหยัดไฟจากหลอดไฟไปได้มากเลยทีเดียว

ปลูกต้นไม้

การปลูกต้นไม้หรือติดตั้งอุปกรณ์บังแดดนอกบ้าน สามารถช่วยป้องกันแสงแดดและทำให้บ้านเย็นขึ้นในช่วงฤดูร้อนและช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศอีกด้วย

ใช้ประโยชน์ช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อย

ข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวงได้กล่าวไว้ว่า ในช่วงเวลา 4 ทุ่ม – 9 โมงเช้าในวันธรรมดา และตลอดทั้งวันของเสาร์-อาทิตย์ อัตราค่าไฟจะมีราคาถูกอยู่ที่ 2.1827 บาท ต่อหน่วย ลองซักผ้า รีดผ้า หรือหากิจกรรม อื่น ๆ ที่ต้องใช้พลังงานสูงมากในช่วงเวลานี้ เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดค่าไฟและประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณ แม้ว่าค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ แค่ปรับเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ ในกิจวัตรประจำวัน รวมถึงการเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยวิธีแก้ปัญหาค่าไฟแพงในระยะยาว ลองติดตั้งระบบพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ อย่างแผงโซล่าเซลล์ เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

ติดโซล่าเซลล์ “ลดค่าไฟแพง” ได้จริงหรือ?

เทรนด์รักษ์โลกช่วยลดค่าไฟด้วยการติดตั้งโซล่าเซลล์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจต้องการลดค่าไฟในระยะยาว การที่โซล่าเซลล์ช่วยลดค่าไฟแพงได้นั้นเกิดจากการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แน่นอนว่าประเทศไทยมีแสงแดดที่ให้ความเข้มข้นสูงจึงทำให้มีประสิทธิภาพในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ มีส่วนช่วยลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเป็นพลังงานที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างไม่มีวันหมด ทั้งนี้ในการติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อช่วยลดค่าไฟภายในบ้านเป็นการลงทุนในระยะยาว สามารถช่วยประหยัดไฟได้ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาทต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้งาน

ติดโซล่าเซลล์ คุ้มค่าจริงไหม?

ความคุ้มค่าของการติดโซล่าเซลล์ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบ้าน ในกรณีที่เราใช้ไฟบ้านมากในช่วงเวลากลางวัน เช่นมีการเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน หรือเป็นผู้ที่ทำงานในบ้านตลอดเวลา (Work from home หรือ freelance) รวมไปถึงสำนักงาน ออฟฟิศที่ใช้ไฟมาก การติดโซล่าเซลล์แบบระบบ On Grid จะช่วยลดค่าไฟ และเกิดความคุ้มค่าตั้งแต่เดือนแรกที่ติดตั้ง โดยระบบนี้เป็นที่นิยมในการติดตั้งมากที่สุด แต่ถ้าเราใช้ไฟในตอนกลางคืนมากกว่าหรืออยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้าใช้ การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์แบบ Off Grid และ Hybrid จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากกว่า เพราะทั้ง 2 ระบบนี้ต้องมีการสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่เพื่อช่วยจ่ายไฟในเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงแดด ดังนั้นจะหากต้องการติดโซล่าเซลล์ให้คุ้มค่า ก็ต้องเลือกระบบที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต จึงจะเห็นผลอย่างแท้จริง

โซล่าเซลล์ของ PSI ดีอย่างไร?

ในปัจจุบันการติดตั้งโซล่าเซลล์ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป เพราะมีการปรับลดราคาของการติดตั้งโซล่าเซลล์ให้เป็นที่จับต้องได้ คุ้มค่าต่อการเลือกลงทุน แม้จุดคืนทุนจะใช้เวลาหลายปี แต่เมื่อถึงจุดคุ้มทุนแล้วหลังจากนั้นจะเป็นกำไรที่ได้รับกลับมาอย่างมหาศาล เรียกได้ว่ามีแต่ได้กับได้ หากพิจารณาแล้วว่าไม่อยากจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ การติดโซล่าเซลล์จึงเป็นวิธีที่ดี คุ้มในการลงทุน ที่ PSI เราเป็นผู้นำด้านโซล่าเซลล์ จึงการันตีได้เลยว่า โซล่าเซลล์ของ PSI มีคุณภาพ ปลอดภัย ผ่านมาตรฐานการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอย่างแน่นอน สนใจอยากสั่งซื้อสามารถเข้าไปดูสินค้าได้ใน PSI.CO.TH หรือสามารถขอทราบรายละเอียดผ่าน Call Center ด้วยหมายเลข 1247 รวมทั้งช่องทางออนไลน์ของ PSI ทุกช่องทาง LINE: @PSI1247 FB : https://www.facebook.com/psisats บทความที่เกี่ยวข้อง